อาหารไทยเป็นอาหารที่มีรสชาติจัดจ้านและขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย เครื่องปรุงรสถือเป็นเสน่ห์ที่อยู่คู่อาหารไทยมาช้านาน แต่การปรุงรสอาหารที่มากจนเกินไปส่งผลให้ร่างกายได้รับโซเดียมเกินความพอดี อาจนำไปสู่ภาวะความดันโลหิตสูง  ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนโรคหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต และโรคไตได้

ถึงแม้ว่าโซเดียมมีความจำเป็นต่อร่างกายช่วยควบคุมสมดุลของเซลล์ร่างกาย ช่วยให้การทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้ออยู่ในภาวะปกติ  แต่การบริโภคมากเกินไปจะส่งผลให้ร่างกายเสียสมดุลน้ำ เกิดการดูดกลับน้ำเข้ามาในหลอดเลือด ส่งผลเพิ่มความดันโลหิตในที่สุด องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้คำแนะนำไว้อย่างชัดเจนว่า เราควรบริโภคโซเดียมไม่เกินวันละ ประมาณ 2.4 กรัม หรือ คิดเป็นเกลือแกงที่อยู่ในรูปโซเดียมคลอไรด์ไม่เกิน 6 กรัมต่อวัน (หรือประมาณ 1 ช้อนชากว่าๆเท่านั้น !!) แต่ข้อเท็จจริงคือในแต่ละวันคนไทยบริโภคโซเดียมสูงกว่าคำแนะนำประมาณ 2-4 เท่า โดยเฉลี่ย ทั้งที่ได้รับจากเครื่องปรุงรส ในขณะทำอาหารและการปรุงเพิ่มเติมบนโต๊ะอาหาร  ไม่ว่าจะเป็นน้ำปลา ซีอิ้ว ซอสปรุงรส ผงชูรส นอกจากนี้เรายังมาจากโซเดียม แอบแฝงในอาหารอื่นอีกแม้ไม่ได้มีรสเค็ม เช่น เบเกอรี่ ขนมปัง ขนมเค้ก คุกกี้ ที่มักมีส่วนประกอบของผงฟู  อาหารกระป๋อง อาหารแปรรูปที่มีการเติมสารกันบูดซึ่งมีส่วนประกอบของโซเดียม

  จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันมีการผลิตเครื่องปรุงรสอาหารที่มีโซเดียมต่ำโดยการใช้เกลือโพแตสเซียมทดแทนออกวางจำหน่าย ในท้องตลาด แต่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจไม่เหมาะสมสำหรับทุกคนในครอบครัว ถ้ามีสมาชิกในบ้านป่วย เป็นโรคบางอย่าง เช่น ผู้ป่วยโรคไตเสื่อม ที่จะมีภาวะโพแทสเซียมในร่างกายคั่งอยู่แล้ว ทำให้ไม่สามารถกำจัดโพแทสเซียมส่วนเกิน ที่บริโภคเข้าไปออกจากร่างกายได้ หรือคนที่ทานยาบางชนิดที่เพิ่มระดับโพแตสเซียมในร่างกายอยู่แล้ว การบริโภคโพแทสเซียม เพิ่มเข้าไป จะทำให้ระดับในเลือดยิ่งสูงขึ้น อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและอาจถึงขึ้นเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

ถึงแม้จะมีหลักฐานทางวิชาการแนะนำว่าการบริโภคโพแทสเซียมจะมีผลดีต่อการลดความดันโลหิตในผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคไต อย่างไรก็ตามคำแนะนำดังกล่าวให้บริโภคโพแทสเซี่ยมจากแหล่งอาหารธรรมชาติ เช่นผัก ผลไม้ และธัญพืช ที่คนไทยทานอยู่ ประจำวันอยู่แล้ว โดยไม่แนะนำให้บริโภคโพแทสเซี่ยมสังเคราะห์เสริมเพิ่มเติม เช่น จากการปรุงรสอาหารในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ปัจจุบันสังคมกำลังรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใส่ใจการทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ จะพบว่าผลิตภัณฑ์เครื่องปรุง ส่วนใหญ่ มักมีส่วนผสมของวัตถุกันเสีย มีสารแต่งสี และรสชาติ เช่น ผงชูรส  รวมทั้งผงไดโซเดียม 5’-ไรโบนิวคลีโอไทด์  สารให้ความหวาน ซึ่งอาจไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพหากได้รับในปริมาณมากเกินไปหรือต่อเนื่องเป็นเวลานาน ด้วยเหตุดังกล่าวทางเราจึงมีเจตนารมณ์ในการทุ่มคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสที่มีโซเดียมต่ำและไม่มีการเติมโพแทสเซียม ไม่ใส่น้ำตาล และสารให้ความหวาน ไม่ใส่ผงชูรส สามารถนำมาใช้ประกอบอาหารให้ยังมีรสชาติดีคงเอกลักษณ์ความอร่อย ของอาหารไทยไว้ โดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เหมาะกับสมาชิกทุกคนในครอบครัวที่พวกเรารัก …